ศาลเจ้ายูโตคุ อินาริหรือศาลเจ้ายูโทคุ อินาริตั้งอยู่ที่เมืองคะชิมะ จังหวัดซะงะหรือซะกะ (Kashima,Saga) เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต พื้นที่กว้างขวางมีทั้งส่วนที่เป็นศาลเจ้าและสวนญี่ปุ่นอันร่มรื่น
หลายคนต่างบอกไว้ว่าที่นี่เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่ใหญ่มากอันดับต้นๆ ถ้าพูดถึงศาลเจ้าอินาริก็ต้องนึกถึงที่ “ฟุชิมิ อินาริจังหวัดเกียวโต”
ครั้งที่เราเดินทางไปได้มีโอกาสเดินคุยกับเจ้าอาวาส (ซึ่งจริงๆตำแหน่งนี้ในญี่ปุ่นคือ แค่คนดูแลกิจการวัด ไม่ใช่พระสงฆ์ที่บวชอยู่ในวัดหรือศาลเจ้า) ท่านอธิบายตั้งแต่ทางเดินเข้าศาลเจ้าให้เราฟังตลอดทางและพาเดินชมบริเวณรอบๆด้วย (ท่านแอบกระซิบว่า ไม่ควรพูดว่าที่ไหน ใหญกว่าที่ไหน ศาลเจ้าทุกที่มีความสำคัญเท่าๆกัน แต่ให้นับจำนวนคนมาสักการะศาลเจ้า ที่นี่เรามากกว่านะ 555~)
ประตูทางเข้าของศาลเจ้าแห่งนี้เป็นเสาโทริอิแบบหิน ที่มีสุนัขจิ้งจอกยืนอยู่ทั้งสองฝั่ง ซึ่งตามแต่เดิมเชื่อกันว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์นำสาส์นของเทพเจ้าอินาริ เพื่อให้บริเวณที่ปลูกข้าวทำการเกษตรได้ผลผลิตที่สมบูรณ์ ดังนั้นศาลเจ้าที่มีสุนัขจิ้งจอกนั้น คนญี่ปุ่นส่วนมากจะมาพรเรื่องการค้า การเกษตรผลผลิตให้อุดมสมบูรณ์
เดินผ่านประตูใหญ่ทางเข้าหน้าศาลเจ้าสีแดง มาถึงถนนที่ปูด้วยหินเป็นทางเดินยาว
ถนนทางเดินในศาลเจ้าทั่วไปนั้น ตามธรรมเนียมปฎิบัติที่ถูกที่ควรคือ เราควรเดินชิดทางขวาหรือซ้าย ข้างใดข้างหนึ่งเพราะทางเดินตรงกลางเชื่อกันว่าคือทางเดินของเทพเจ้า
เมื่อเข้ามาถึงศาลเจ้าก็พบกับความยิ่งใหญ่ของตัวอาคารหลักที่ตั้งอยู่ด้านหน้าเขา ก่อนเดินบันไดขึ้นไปมีศาลเจ้าที่มีเทพเจ้าเกี่ยวกับความรักให้ขอพรกันด้วย
ระยะทางเดินขึ้นไปบนอาคารหลักต้องเดินขึ้นบันไดหลายขั้นอยู่ค่ะ แต่ว่าเมื่อขึ้นไปถึงแล้วจะเห็นสถาปัตยกรรมใกล้ๆสวยแปลกตา แล้วยังมองเห็นวิวมุมสูงจากตรงนี้ได้อีกด้วย
เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ “มิโกะ” หรือเด็กผู้หญิงที่ช่วยงานในศาลเจ้าถามถึงเรื่องงานความรับผิดชอบภายในศาลเจ้าก็ได้คำตอบว่า พวกเค้ามีหน้าที่ช่วยดูแลความเรียบร้อยภายในศาลเจ้า ช่วยงานนักบวชในพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ ซึ่งเด็กผู้หญิงต่างยังทำตามความเชื่อแบบเดิมคือเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์และแต่งงานไม่ได้ จนกว่าจะออกจากสถานะการเป็น “มิโกะ”
ที่มัดผมของ “มิโกะ” สะดุดตาเรามาก พอถามถึงก็ได้คำตอบมาว่าเป็นกระดาษ ทำจากกระดาษทั้งหมดแล้วพวกเค้าต้องตื่นมาม้วนกระดาษมัดผมด้วยตัวเองทุกเช้า ชุดของ “มิโกะ” คือ ฮะกะมะสีแดง เสื้อสีขาวและใส่ทาบิหรือถุงเท้าสีขาวค่ะ
หลังจากเดินลงมาด้านล่างเราก็ไปเดินเล่นกันที่สวนใกล้ๆศาลเจ้า ช่วงที่เราไปเป็นฤดูฝนพอดีดอกอะจิไซกำลังบานสวยเต็มสวนดูแล้วสดชื่นมาก
ก่อนกลับอย่าลืมแวะถนน shopping street “Yutoku Monzen” ที่อยู่ใกล้ๆซื้อขนมโยกังเป็นของฝากกันนะคะ ขนมโยกังที่นี่อร่อยและขึ้นชื่อ