TIPS & HOW TO

คาดการณ์ตอนสุดท้าย “ถ้า” ภูเขาไฟฟูจิระเบิด : ตอนจบ

สำหรับเพื่อนๆที่ยังไม่ได้อ่าน ตอนแรกกับตอนสอง สามารถย้อนอ่านได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ เรามาทำความรู้จักกับภูเขาไฟฟูจิกันก่อนในตอนแรกแล้วพูดถึงความเปลี่ยนแแปลงผิดปกติไปของภูเขาไฟลูกนี้ที่ยังไม่ตายและพร้อมจะเกิดการปะทุครั้งใหม่ได้ตลอดเวลา ในตอนที่สอง

เมื่อภูเขาไฟฟูจิเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง : ตอนหนึ่ง

ภูเขาไฟฟูจิระเบิดในอดีตและสิ่งผิดปกติในปัจจุบัน: ตอนสอง

Photobucket

จากตอนที่แล้วมีการคาดคะเนความเป็นไปได้ของลักษณะการเกิดระเบิดของฟูจิซัง เป็นสองรูปแบบนะคะ
คือแบบที่แผ่นเปลือกโลกเกิดการหดตัวเกิดความดันภายในทำให้ระเบิดออกมาเป็น แมกม่าหรือลาวา ของเหลว
และแบบที่สองคือแผ่นเปลือกโลกยืดตัวออกไปทำให้เกิดระเบิดในรูปแบบของขี้เถ้าควันดำสูงจนบดบังแสงอาทิตย์

Photobucket

ไม่ว่าจะเกิดแบบใด สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ จะมาถึงโตเกียวหรือไม่ โตเกียวจะได้รับผลกระทบอย่างไร นี่เป็นคำถามที่หลายๆคนอยากรู้และกังวลกันอยู่มาก

Photobucket

เรามีภาพ CG มาให้ดูกันว่าการเกิดระเบิดทั้งแบบที่หนึ่งและแบบที่สอง โตเกียวจะมีผลกระทบอย่างไรค่ะ

Photobucket

เรามาดูแบบแรกค่ะ เมื่อการระเบิดเป็นไปในแบบของเหลวที่ไหลออกมา ซึ่งการระเบิดแบบนี้เคยเกิดครั้งใหญ่สุดเมื่อสมัยเฮอันของญี่ปุ่นค่ะ (ปี  864)

PhotobucketPhotobucketPhotobucket

แมกม่า ลาวาของเหลวที่ค่อยๆไหลออกมา พร้อมกับความร้อนที่สามารถเผาไหม้ป่าได้ในเวลาเดียวกัน
ครั้งที่เกิดเมื่อสมัยเฮอันนั้น แมกม่าได้สร้างแอ่งเล็กๆไว้เป็นร่องรอยที่พวกเราเองก็ได้เห็น ถ้าเดินทางผ่านเพื่อขึ้นไปยังภูเขาไฟฟูจิ คือ เซะโนอุมิ

Photobucket

เซะโนอุมิ อยู่ไม่ไกลจาก ทะเลสาบคาวะกุจิโกะ หนึ่งในห้าทะเลสาบที่มีชื่อเสียงบริเวณรอบๆภูเขาไฟฟูจิ (แต่ตอนนี้มีหกทะเลสาบแล้วนะคะ อ่านได้จากตอนสอง)
เซะโนอุมิ  นั้นเกิดจากแมกม่า ลาวาร้อนๆที่ไหลมาจากการระเบิดของภูเขาไฟฟูจิ จากจุดเล็กๆก็ขยายตัวจนเป็นแอ่งใหญ่ขึ้น

PhotobucketPhotobucketPhotobucketPhotobucket

เซะโนอุมิ นั้นมีความลึกถึง 70เมตรเลยหละค่ะ คิดดูว่าความร้อนของลาวานั้นจะร้อนมากแค่ไหน ทำให้แผ่นดินยุบลง ลึกถึง 70เมตร
IMG_0734

อะโอคิกะฮะระ หรือ ป่าแห่งความตาย ก็ถูกธรรมชาติสร้างขึ้นในสมัยเฮอันนี้เช่นกันค่ะ
*ป่าอะโอคิกะฮะระ เป็นป่าที่คนญี่ปุ่นนิยมไปฆ่าตัวตายกันมากค่ะ

Photobucket

การเกิดระเบิดแบบนี้นะคะ ของเหลวจะค่อยๆไหลมา นักวิจัยได้บอกว่าการค่อยๆไหลของของเหลวทำให้ผู้คนมีเวลาในการอพยพและลี้ภัย อาจจะมีผู้ที่ได้รับผลกระทบทางชีวิตนั้นน้อย

PhotobucketPhotobucket

เป็นภาพ CG ที่คาดคะเนว่า ลาวาของเหลวจะไหลมาตามทิศทางนี้
ทางจังหวัดชิซุโอกะค่ะ

PhotobucketPhotobucket

ทางจังหวัดยะมะนะชิ

PhotobucketPhotobucketPhotobucket

จากภาพถ้าอยากทราบว่าผ่านเมืองหรือเขตไหนบ้าง ต้องเอาไปเทียบแผนที่ญี่ปุ่นอีกทีนะคะ

มาดูในแบบที่สองค่ะ การระเบิดเป็นไปในรูปแบบของควันดำๆที่ลอยขึ้นสูง ซึ่งเคยเกิดขึ้นครั้งใหญ่สุดเมื่อสมัยเอโดะ

Photobucket

ชื่อเรียกเหตุการณ์ระเบิดของภูเขาไฟฟูจิในครั้งนี้ว่า โฮเอไดฟุนกะ
เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เดือนธันวาคม ปี1707

Photobucket

การระเบิดแบบนี้มีบันทึกไว้ว่า ความสูงของควันดำที่ลอยขึ้นบนท้องฟ้าสูงถึง 20เมตร

Photobucket

และในรัศมี 10กิโลเมตรจากภูเขาไฟฟูจิมีก้อนหินที่ตกกระเด็นมา ขนาดใหญ่สุด 20เซนติเมตรและก้อนหินพวกนั้นก็เป็นสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ต่อมา

PhotobucketPhotobucket

ควันดำก้อนใหญ่ที่ลอยขึ้นบนฟ้านั้นจะมีผลกระทบโดยวงกว้าง ปกคลุมท้องฟ้าบังแสงอาทิตย์ ในระยะรัศมี 100กิโลเมตรและเป็นแบบนี้ต่อไปมากกว่า 10วันค่ะ (ในอดีตควันดำขี้เถ้าลอยไปไกลถึงเมืองเอโดะ)

PhotobucketPhotobucketPhotobucket

ภาพ CG ที่ได้จำลองเหตุการณ์ของโตเกียวว่าจะมีผลกระทบอะไรบ้าง

Photobucket

หลังจากเกิดการระเบิดของภูเขาไฟฟูจิแล้ว สองชั่วโมง
ควันและขี้เถ้าได้ลอยมาถึงโตเกียว

Photobucket

การจราจรจะเป็นอัมพาตทั้งทางรถยนต์ อากาศ(เครื่องบิน) และทางรถไฟ

PhotobucketPhotobucketPhotobucket

การเกิดไฟฟ้าสถิต จากเศษหินและขี้เถ้าที่ลอยมา เป็นผลทำให้เกิดการกระทบกับเสาไฟฟ้าแรงสูง จนเกิดไฟไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจร ไปจนถึงหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด

Photobucket

ถ้าโตเกียวต้องตกอยู่ในสถานการณ์ทุกอย่างหยุด ผลกระทบทางเศรษฐกิจ โตเกียวจะเสียหายเป็นจำนวนเงินถึงเกือบสามล้านล้าน~เยน
(นับตัวเลขเยอะๆไม่ถูกเลย)

PhotobucketPhotobucket

ตอนนี้นักวิจัยหลายคนจากหลายๆที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของแมกม่าใต้ภูเขาไฟฟูจิอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดค่ะ เราสามารถรู้ล่วงหน้าได้
ว่าภูเขาไฟอันสวยงามที่ชื่อ ฟูจิ นั้นจะเกิดการปะทุขึ้นเมื่อไหร่

Photobucket

***มีคำแนะนำ สำหรับผู้ที่อยู่ญี่ปุ่นช่วงนั้นพอดี หมายถึงช่วงภูเขาไฟฟูจิ เกิดปะทุและระเบิด
เราควรทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้นะคะ

Photobucket

-ใช้หน้ากากอนามัย ผ้าปิดปากทุกครั้ง เพื่อป้องกันโรคต่างๆจากการสูด ดม หายใจ เช่นปอดอักเสบ
-เกี่ยวกับดวงตา ไม่ควรใช้คอนแทคเลนส์ ใส่แว่นตากันลมกันฝุ่น เพื่อป้องกันการเกิดแผลต่างๆในดวงตา

ขอให้ทุกคนตระหนักถึงเรื่องภัยพิบัติต่างๆว่าทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราอีกแล้ว และการดูแลตัวเองเบื้องต้นพร้อมๆกับสติทุกครั้ง ไม่ว่าจะมีภัยอะไร

บทความทั้งหมดถ้าเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน สามารถนำไปบอกต่อและแนะนำคนอื่นได้ค่ะ
และอย่าลืมนึกถึงข้อควรปฎิบัติต่างๆที่ได้อ่านผ่านมานะคะ

2 Comments
To Top